โครงการ Big Data แตกต่างจากโครงการ IT ทั่วไปอย่างไร

เหตุผลที่โครงการ Big Data มีอัตราความสำเร็จต่ำกว่าโครงการ IT อื่นๆ ก็เป็นเพราะโครงการ Big Data ไม่เหมือนโครงการ IT ทั่วไป โดยมีปัจจัยที่แตกต่างกัน 4 ประการด้วยกัน

1. ด้านวัตถุประสงค์ของโครงการ ส่วนใหญ่แล้วโครงการ IT จะเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีและมีทีม IT เป็นเจ้าของโครงการ เช่น การจัดซื้อ Hardware เพื่อรองรับงานฝั่ง IT ในขณะที่การโครงการ Big Data จะเน้นการใช้ประโยชน์จาก Data เพื่อประโยชน์ในการใช้งาน ชหรือเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจ ดังนั้นวัตถุประสงค์ของโครงการ Big Data จึงเน้นผลลัพธ์ที่สนับสนุนงานฝั่ง Business มากกว่าฝั่ง Technology

2. ด้านการลงทุน โครงการ IT มักจะต้องลงทุนด้าน Hardware และ Software ในขณะที่โครงการ Big Data จะต้องมีการลงทุนด้านการพัฒนา (จ้างพัฒนา) และมีการลงทุนในการจ้างบริการให้ได้มาซึ่งข้อมูลอีกด้วย

3. ด้านบุคลากร โครงการ IT สามารถจบได้ด้วยบุคลากรด้าน IT ล้วนๆ ในขณะที่โครงการ Big Data จะต้องมีตัวแทนจากหลายฝ่าย เช่น ฝ่าย IT ทำหน้าที่นำส่งข้อมูลจากระบบต่างๆ, ฝ่าย Analytics ทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูล, ฝ่าย Business ทำหน้าที่เสนอความต้องการและเป็นผู้ใช้งาน ทำให้โครงการ Big Data เป็นโครงการที่มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมากกว่าโครงการ IT หลายเท่าตัว

4. ด้านการพัฒนาโครงการ โครงการ Big Data ต้องเริ่มจากความต้องการหรือโจทย์จากทางฝั่ง Business ที่ต้องการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ ทำให้การพัฒนาโครงการควรเริ่มจากการออกแบบโครงการจากฝั่ง Business และมีทีม Business เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงการ

ตัวระบบที่พัฒนาอาจจะเป็นระบบสำเร็จรูปหรือเป็นระบบที่ออกแบบใหม่พิเศษก็ได้ ในขณะที่โครงการ IT จะเป็นจัดซื้อระบบมาลงโดยมี Need มาจาก IT ที่ต้องการลงระบบ หรือ พัฒนาระบบ แต่ไม่ได้มี Need มาจากฝั่ง Business เป็นหลัก

จากความแตกต่างทั้ง 4 ทำให้เห็นชัดเจนว่า โครงการ Big Data ควรมีเจ้าของโครงการเป็นฝั่ง Business มากกว่าฝั่ง IT เนื่องจากเป็นโครงการที่เน้นใช้ประโยชน์จาก Data มิใช่โครงการเก็บ Data อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีหรือบางส่วนของโครงการ Data อาจจะเป็นงานเฉพาะส่วน IT ได้ เนื่องจากเป็นการสร้างระบบข้อมูล เช่น โครงการพัฒนา Data Lake ซึ่งเป็นโครงการเก็บข้อมูลแต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นโครงการใช้ประโยชน์จากข้อมูลจึงยังไม่ใช่โครงการ Big Data ที่ครบลูปนั่นเอง