เนื่องด้วยหนึ่งใน งาน ส่วนใหญ่ของ Coraline คือ การเข้าไปสร้าง Platform ให้ลูกค้าที่มี Big Data ในระบบอยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นระบบ ERP และเรามักจะได้รับฟังปัญหาจาก ระบบ ERP อยู่บ่อยครั้ง ด้วยเหตุที่ ERP ไม่สามารถตอบโจทย์ทั้งหมดของธุรกิจได้ เราจึงอยากเสนอเรื่อง ERP ยังคุ้มหรือไม่ กับการลงทุน ดังต่อไปนี้
ก่อนอื่น มาทำรู้จักกันก่อน ระบบ ERP ย่อมาจาก Enterprise Resource Planning นั้นคือ ระบบที่ใช้ในการวางแผนทรัพยากรต่างๆ ทางธุรกิจ โดยเชื่อมโยงระบบงานต่างๆ ของเข้าไว้ด้วยกัน เช่น งานบัญชี การเงิน ทรัพยากรบุคคล ระบบการผลิต และการกระจายสินค้า
ข้อดีของการมีระบบ ERP คือ ทำให้องค์กรทราบแหล่งที่มาของ Resource หรือข้อมูล ได้ชัดเจน และส่งต่อไปให้ยังฝ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง ทำให้การทำงานต่างๆ กระทำได้ดีขึ้น ง่ายขึ้น ชัดเจนและเป็นระบบมากขึ้น ทดแทนงาน Manual ต่างๆ ในระบบ
ตัวอย่างเช่น ธุรกิจประเภท Retail จำเป็นอย่างยิ่งต้องมีระบบการเช็คสินค้าคงคลังหรือ inventory และเช็คยอดสั่งซื้อสินค้าจากสาขาต่างๆ แบบ Real-time เพื่อนำไปวางแผนการวางสินค้าหน้าร้านได้ต่อไป
ดังนั้น หน้าที่หลักของ ERP คือ การบริหาร Resource หรือ ข้อมูลขององค์กร
ERP ที่มีอยู่ในตลาด แบ่งออกเป็น
Software สำเร็จรูป เช่น SAP, Oracle, Microsoft เป็นต้น ซึ่งจะเป็นเจ้าใหญ่ที่มีระบบชัดเจน ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด ทำให้ใช้เวลา Implement ไม่มากนัก เพราะไม่ต้องเขียนใหม่ มีข้อดีคือเป็น software ที่เข้มแข็ง มีทีม Implement ที่เชื่อถือได้ แต่ด้วยราคา หากลูกค้าใช้งานไม่ครบทุกฟังก์ชั่น ก็อาจเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า
Open Source ERP เช่น Odoo, ERPNext, Dolibarr เป็นต้น พวกนี้เป็นระบบที่ต้องมีการปรับจูน เขียนโค้ด และออกแบบเพิ่มเติมให้เข้ากับระบบหน้างานของลูกค้า มีข้อดีคือ Flexible สามารถยกเลิก หรือเขียนโปรแกรมอื่นๆ เพิ่มเข้าไปในระบบได้ ราคาก็น่ารัก ขึ้นอยู่กับความใหญ่ของงาน แต่มีข้อเสียคือ ต้องมองหาทีมงานที่น่าเชื่อถือ และตัวผู้ใช้งานเอง ต้องสามารถให้ Requirement ที่ชัดเจนกับ Vendor ได้
Customized ERP ซึ่งคือการสร้างระบบ ERP ขึ้นมาเอง โดยการจ้าง Software Developer อาจทำแบบ In-house หรือ Outsource ก็ได้ ข้อดีคือ ได้ระบบที่ตรงตามใจขององค์กร ราคาถูก แต่ใช้เวลานาน และมีความเสี่ยงกรณีลูกจ้างลาออก
ปัจจุบัน ด้วยเทรนของการวิเคราะห์ข้อมูล การทำ Big Data จึงมิใช่แค่การเก็บข้อมูลเอาไว้เยอะๆ แต่เป็นความสามารถที่จะนำข้อมูลนั้นมาตอบโจทย์ต่างๆ ให้องค์กรได้ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนระบบการผลิตโดยการ Optimization การทำ Sale forecasting หรือ การจัดกลุ่มเป้าหมายลูกค้า ทำให้ ERP หลายเจ้า พยายามผลักดันระบบการวิเคราะห์ และการ Visualize ข้อมูลเข้าไปอยู่ใน Platform ERP ด้วย ทำให้ผู้ใช้งานเกิดความคาดหวังต่างๆ นานา โดยเฉพาะกรณีที่ ERP แบบสำเร็จรูป ซึ่งมีราคาแพง ซึ่งมีสมการหรือรูปแบบตายตัว ไม่ Flexible หรือเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพแวดล้อมต่างๆ ขององค์กร ทำให้ระบบ ERP ที่ซื้อมานั้นอาจไม่ตอบโจทย์ให้ธุรกิจได้ทั้งหมด
Coraline เอง ไม่ใช่บริษัทรับติดตั้ง หรือออกแบบระบบ ERP แต่เป็นบริษัทรับออกแบบ Solution และสร้าง Machine Learning ดังนั้น การรับงานแต่ละครั้ง เราจำเป็นต้องเข้าใจระบบงานเดิมของลูกค้า และรับโจทย์ปัญหา รวมถึงสิ่งที่ลูกค้ามองหาให้ชัดเจนก่อนจะรับงานนั้นๆ
เป้าหมายหนึ่งในการทำงานของเรา คือ การสร้างองค์ความรู้ที่ยั่งยืนให้ลูกค้า อย่างเช่นกรณี ERP ของลูกค้า ที่มิได้มี Machine Learning ทำให้ไม่สามารถสร้างสมการหรือหา Insight ใดๆ ในข้อมูลนั้นๆ ได้ เราอาจเสนอแนะโดยการดึงข้อมูลออกมาแล้วเขียนโปรแกรมวิเคราะห์แยกส่วนกัน หากเป็นกรณี ERP แบบ Open source ทางเราจะสามารถเขียนโค้ดเข้าไปเพื่อสร้าง Platform เพิ่มเติมได้
การสร้าง Machine Learning ที่ตอบโจทย์ โดยส่วนใหญ่ จะเป็นการสร้างใหม่ เพราะ Machine จะ Learn ได้ แต่ละครั้ง ต้องเรียนรู้จาก Condition และข้อมูล ของสภาะแวดล้อมนั้นๆ และต้องมีวิธีการ Evaluate หรือเลือก Model ที่ใช้อย่างสมเหตุสมผล ก่อนจะนำไปใช้งานจริง
ดังนั้น บทสรุปว่า ERP ยังใช้ได้อยู่มั้ย จึงตอบว่า “ใช้ได้” ไม่ผิดอะไร เพียงแต่ต้องวางความคาดหวัง และเป้าหมายการใช้งานให้ชัดเจน ก่อนจะคัดเลือก ต้องมีวิธีการ Requirement Check list หรือการทำ Proof of concept (POC) เสียก่อน ควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ Return of investment เพื่อดูว่าเงินลงทุนที่ลงไปนั้น คุ้มค่า และตอบโจทย์ธุรกิจจริงหรือไม่ โดยที่ต้องมองหา Solution อื่นๆ มาเปรียบเทียบด้วย เพื่อหาสิ่งที่เหมาะสมที่สุดให้องค์กรต่อไป
Comments